การวิเคราะห์โครงสร้างสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยทักษิณ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยทักษิณ การดำเนินงานวิจัยระยะแรกเป็นการหาสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยทักษิณ ด้วยการศึกษาจากเอกสาร งานวิจัย และการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9 คน ต่อมานำผลที่ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกมาทำการวิเคราะห์ด้วยวิธีการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้าและนำผลที่ได้จาการวิเคราะห์มาสร้างเป็นโครงสร้างสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จากนั้นดำเนินการสนทนากลุ่ม (Focus Group) สมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจำนวน 6 คน เพื่อวิพากษ์โครงสร้างสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกำหนดน้ำหนักตัวสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับบุคลากรสายสนับสนุน จากนั้นนำโครงสร้างสมรรถนะหลักมาวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของโครงสร้างสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้วยแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่างข้าราชการและพนักงานสายสนับสนุนจำนวน 211 คน ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย
ผลการวิจัยพบว่า
1. โครงสร้างสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยทักษิณ ประกอบด้วย ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านเจตคติ
2.สัดส่วนร้อยละของน้ำหนักตัวบงชี้สมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยทักษิณ ผลการวิจัยพบว่าสัดส่วนร้อยละของน้ำหนักมากที่สุด คือ ด้านทักษะมีน้ำหนักร้อยละ 60 รองลงมาคือด้านความรู้สัดส่วนร้อยละ 30 และน้อยที่สุด คือ ด้านเจตคติมีน้ำหนักร้อยละ 10
3.โครงสร้างของสมรรถนะหลักด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง ความตรงเชิงลู่เข้าอยู่ในเกณฑ์ดี และความน่าเชื่อถือได้โครงสร้างมีค่าสัมประสิทธิ์ของการพยากรณ์ (R2) ตั้งแต่ 0.49-0.88 นั้นแสดงว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของแต่ละองค์ประกอบมีความน่าเชื่อถือได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการผลประโยชน์แห่งชาติ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License วารสารอนุญาตให้มีการเข้าถึงหรือเผยแพร่งานทางวิชาการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือมีการลงทะเบียน เพื่อเป็นการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ ขอบข่ายครอบคลุมงานวิชาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ และนวัตกรรมผู้ใช้สามารถแบ่งปัน คัดลอก และกระจายข้อมูลทั้งหมดที่ตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการผลประโยชน์แห่งชาติ ในรูปแบบหรือสื่อใดก็ตามตามเงื่อนไขต่อไปนี้:
การอ้างอิง — อนุญาตให้นำผลงานไปใช้ ทำซ้ำ แจกจ่าย หรือดัดแปลงงานนั้นได้ แต่ต้องให้เครดิตที่มาของเจ้าของผลงานนั้น ซึ่งถ้ามีการใช้ผลงานนั้นโดยไม่มีเครดิตชื่อเจ้าของผลงานกำกับ จะต้องทำการขอนุญาตเจ้าของผลงานก่อน
ไม่ใช้เพื่อการค้า — อนุญาตให้นำผลงานไปใช้ ทำซ้ำ แจกจ่าย หรือดัดแปลงงานนั้นได้ แต่ไม่สามารถใช้ผลงานหรือบทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าได้
ไม่สามารถดัดแปลง — อนุญาตให้นำผลงานไปใช้ ทำซ้ำ แจกจ่าย ผลงานชิ้นนั้นได้ แต่ห้ามดัดแปลงงาน เว้นแต่ว่าจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าของผลงานก่อน
เอกสารอ้างอิง
Information and Communication Technology Executive Committee, Strategic Plan on Information and Communication Technology Thaksin University 2015.Songkhla: Computer Bureau Thaksin University, 2015,pp. 1-20
Ministry of Digital Economy and Society, “Leadership Seminar Documents and senior government information technology executives on Driving Digital Development Plans for the Economy and Society of Government Agencies,” in Digital Thailand 2016, Bangkok:2016,pp. 50-52.
Ministry of Information and Communication Technology, Digital Economy and Society Development Plan, Bangkok: Ministry of Information and Communication Technology, 2016,pp. 4-5.
J. F. Hair et al., Multivariate data analysis (5th ed.). Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall, 1998, pp. 107
C. Woodruffe, What is meant by competency?. New York: McGraw-Hill, 1992, pp. 29-36
Anntoinette D. Lucia and Richard Lepsinger, The Art and Science of Competency Model: Pinpointing Critical Factors in Organizations. San Francisco: Jossey-Bass Pfeiffer, 1999,pp. 2-5
Kanya Rasamethammachot, “An Indisputable Management Tool,” Productivity World, vol. 9, pp. 44-51, 2004.
A.Isman and O.C. Gungoren, "Digital citizenship," TOJET: The Turkish Online Journal of Educational Technology, vol. 13, no. 1, pp. 73-77, 2014.
Seree Chadcham, “Confirmation Component Analysis,” Journal of Educational Measurement, vol. 1, vol. 12, pp. 15-42, 2004.
Chaiyan Sakulsriprasert, “Confirmation Component Analysis,” Journal of Clinical Psychology, vol. 44(11), pp. 1-13, 2013
Jiraprapa Akkaravorn, “What Is Competency?” Graduate Program for Human Resource Development, National Institute of Development Administration, 2009. [online]. Available: http://www.nitiphong.com/paper_pdf/whatisCompetency.pdf. . [Accessed August 7, 2017].
Wittaya Damrongkiattisak, “Digital Citizenship),” 2015. [online]. Available: http://www.infocommmju.com/icarticle/images/stories/icarticles/ajwittaya/digital/Digital_Citizenship.pdf. [Accessed August 24, 2019].
Teck Soon Hew and Lai Ying Leong, "An Empirical Analysis of Malaysian Pre-university Students' ICT Competency Gender Differences," International Journal of Network and Mobile Technologies, vol. 1, no. 2, pp.15, 29,2011
Saifon Paopanao, “Education of Competency in Using Information and Communication Technology for Learning of Undergraduate Students Rajamangala University of Technology Rattanakosin Wang Klai Kangwon Campus,” Veridian E-Journal, vol. 1, no. 15, pp. 541-561, 2012.
Nongluck Wirachchai, Structural Relationships.Bangkok: Chulalongkorn University Printing House, 1994
Derek Hornby and Thomas Reymond, "Toward a Better Standard of management," Personal Management, vol. 21, pp. 52-55, 1989.