Publication Ethics
จริยธรรมในการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการ
วารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTAJ) เป็นวารสารวิชาการของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) สำหรับการบริหารจัดการ ส่งเสริมแบ่งปัน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ในรูปแบบบทความวิจัย บทความวิชาการ
และบทวิเคราะห์ จากการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
กองบรรณาธิการ วารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ตระหนักถึงมาตรฐานด้านจริยธรรมการตีพิมพ์ของผู้เขียนบทความ (Authors) ผู้ประเมินบทความ (Reviewers) และบรรณาธิการ (Editor) ที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การตีพิมพ์ถูกต้องตามหลักจริยธรรม โปร่งใส มีคุณภาพสอดคล้องตามมาตรฐาน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะและผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน จึงได้กำหนดแนวทาง วิธีปฏิบัติ และจริยธรรมของการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยไว้สำหรับการดำเนินงานของวารสาร ดังนี้
จริยธรรมของผู้นิพนธ์ (Author)
1. ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งมาตีพิมพ์ ต้องไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อนและต้องไม่อยู่ในกระบวนการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารอื่น หรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด
2. ผู้เขียนต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตัวเอง หากมีการนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ในบทความ
ต้องอ้างอิงผลงานของผู้อื่นโดยจัดทำรายการอ้างอิงให้ถูกต้องครบถ้วนท้ายบทความ
3. ผู้เขียนต้องรายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูล หรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
4. ผู้เขียนต้องเขียนบทความให้ถูกต้องตามรูปแบบที่วารสารกำหนด
5. ชื่อผู้เขียนที่ปรากฏในบทความ ทั้งผู้เขียนหลักและผู้เขียนร่วม ต้องเป็นผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานวิจัยตามความเป็นจริง
6. หากได้รับทุนสนับสนุนการวิจัย ผู้เขียนต้องระบุแหล่งทุนที่สนับสนุนในการวิจัยให้ครบถ้วน
7. ข้อความและเนื้อหาที่ปรากฏในบทความและองค์ประกอบทั้งหมดของบทความในแต่ละเรื่องเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน หากมีการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้เขียนยินยอมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
8. ผู้เขียนต้องยอมรับผลการพิจารณาของผู้ประเมินบทความและการตัดสินของบรรณาธิการถือเป็นที่สิ้นสุด
9. ผู้เขียนต้องระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (ถ้ามี)
จริยธรรมของบรรณาธิการ (Editor)
1. บรรณาธิการวารสารมีหน้าที่พิจารณาคุณภาพของบทความ โดยพิจารณาจากเนื้อหาของบทความที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสาร
2. บรรณาธิการวารสารต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนบทความและผู้ประเมินบทความแก่ผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในช่วงระยะเวลาการประเมินบทความ
3. บรรณาธิการวารสารมีบทบาทในการตัดสินใจคัดเลือกบทความที่มีคุณภาพด้วยหลักทางวิชาการ โดยผ่านกระบวนการประเมินบทความตามขั้นตอนที่วารสารได้กำหนดไว้
4. บรรณาธิการวารสารต้องไม่ตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่อื่นมาแล้ว
5. บรรณาธิการวารสารมีหน้าที่ในการตรวจสอบบทความเพื่อให้แน่ใจว่าบทความที่จะตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารไม่มีการคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) หากตรวจสอบพบ บรรณาธิการวารสารต้องหยุดกระบวนการและติดต่อผู้เขียนบทความทันที เพื่อขอคำชี้แจงประกอบการพิจารณาในการตอบรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์
6. บรรณาธิการวารสารต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนบทความและผู้ประเมินบทความ หรือบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในผลประโยชน์จากการเผยแพร่หรือตีพิมพ์บทความ
7. บรรณาธิการวารสารต้องรักษามาตรฐานของวารสาร รวมทั้งพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของวารสารอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
จริยธรรมของผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ (Reviewer)
1. ผู้ประเมินบทความควรดำเนินการอย่างเป็นกลาง และให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ที่สอดคล้องและเป็นประโยชน์ในด้านคุณภาพแก่ผู้เขียนบทความ
2. ในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ ผู้ประเมินบทความต้องเก็บรักษาข้อมูลและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณาแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
3. ผู้ประเมินบทความต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนบทความ และต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบทันทีหากได้รับบทความที่ตนเองอาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม
4. ผู้ประเมินบทความควรประเมินบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง และสามารถปฏิเสธการประเมินบทความได้ หากพบว่าเนื้อหาบทความไม่ตรงกับสาขาวิชาที่ผู้ประเมินเชี่ยวชาญ
5. ผู้ประเมินบทความมีบทบาทในการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของผลงานจากผู้เขียน หากพบว่าบทความมีการคัดลอก ปลอมแปลง หรือซ้ำซ้อนกับผลงานอื่นๆ ควรแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบ
6. ผู้ประเมินบทความต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์จากกระบวนการประเมินบทความเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
7. ผู้ประเมินบทความควรดำเนินการประเมินบทความภายในระยะเวลาที่วารสารกำหนด
หลักเกณฑ์การดำเนินงานของกองบรรณาธิการ
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ มีนโยบายที่จะสนับสนุน ส่งเสริมบุคลากร ทั้งภายในและภายนอกสถาบันได้เสนอบทความวิจัยหรือบทความทางวิชาการที่ ได้มาตรฐานสู่สาธารณะชน รวมถึงยกระดับผลงานวิชาการและวิจัยของบุคลากรทั้งภายในและภายนอกสถาบันให้เป็นที่ยอบรมในระดับชาติ โดยกำหนดให้จัดทำวารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ปีละ 3 ฉบับ
วารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของวารสารอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานของกองบรรณาธิการไว้ดังนี้
หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิในกองบรรณาธิการ
ผู้ทรงคุณวุฒิในกองบรรณาธิการวารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ จำนวนอย่างน้อย 3 ข้อ
1. มีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาเอก
2. มีตำแหน่งทางวิชาการระดับ ผศ. ขึ้นไป หรือดำรงตำแหน่งบริหารระดับหัวหน้าภาควิชา หรือเทียบเท่าขึ้นไป ถ้าตำแหน่งทางวิชาการระดับ ศ. จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นลำดับแรก
3. มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ ไม่น้อยกว่า 5 ฉบับ
4. มีประสบการณ์ประเมินบทความในวารสารวิชาการ
5. มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาและประเมินบทความ
ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาและประเมินบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้จำนวนอย่างน้อย 3 ข้อ
1. มีคุณวุฒิการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาเอก
2. มีตำแหน่งทางวิชาการระดับ ผศ. ขึ้นไป หรือดำรงตำแหน่งบริหารระดับหัวหน้าภาควิชา หรือเทียบเท่าขึ้นไป
3. มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการหรือนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ อย่างน้อย 2 ฉบับขึ้นไป
4. มีประสบการณ์ประเมินบทความในวารสารวิชาการ
5. มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
หลักเกณฑ์การประเมินบทความสำหรับผู้ประเมินบทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีความชัดเจนของปัญหาและวัตถุประสงค์
2. มีความริเริ่มหรือเป็นการต่อยอดทางวิชาการ
3. มีความเหมาะสมของวิธีการที่ใช้ในการแก้ปัญหา
4. มีการใช้ภาษาถูกต้องตามหลักภาษาและไวยากรณ์
5. มีความถูกต้องของการวิเคราะห์และสรุปผล
6. บทความโดยรวมมีคุณภาพในระดับที่เหมาะสม
7. มีประโยชน์ต่อวงการวิชาการ การทหาร หรือการพัฒนาประเทศ
8. บทความต้องไม่เคยถูกเผยแพร่หรือลงตีพิมพ์ในแหล่งอื่นๆ
9. ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เป็นการคัดลอกข้อความที่เขียนโดยผู้อื่นโดยไม่มีการอ้างอิงถึงต้นฉบับ
หลักเกณฑ์การพิจารณากลั่นกรองบทความ
1. บทความจะผ่านขั้นตอนการประเมินเบื้องต้นถึงคุณภาพและขอบเขตของเนื้อหา ความถูกต้องของรูปแบบการเตรียมบทความ ความซ้ำซ้อน และการคัดลอกวรรณกรรม (duplication and plagiarism) บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ ต้องไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในกระบวนการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด
2. บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ ต้องเป็นบทความที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพทางวิชาการ และมีประโยชน์ในเชิงทฤษฎีหรือเชิงปฏิบัติ โดยผ่านการพิจารณา และให้ความเห็นชอบแบบปกปิดรายชื่อจากผู้ทรงคุณวุฒิ (double-blinded peer reviews) ซึ่งต้องมีคุณสมบัติอย่างต่ำตามเกณฑ์มาตรฐาน คือเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ ทำงานวิจัยและมีผลงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง จำนวนอย่างน้อย 2 ท่านขึ้นไปต่อบทความ และ/หรือ ผ่านการพิจารณาจากกองบรรณาธิการเป็นรายกรณี โดยบทความที่ผ่านการปรับปรุงตามผลการประเมินจะได้รับพิจารณาอนุมัติให้ตีพิมพ์บทความ ขั้นตอนสุดท้าย กองบรรณาธิการจะดำเนินการตรวจสอบบทความและพิสูจน์อักษรก่อนที่จะเผยแพร่บทความรอตีพิมพ์ (in press articles) แบบออนไลน์ลงในเว็บไซต์ของวารสารฯ และจัดพิมพ์บทความทั้งหมดรวมเล่มเพื่อดำเนินการเผยแพร่ต่อไป
3. การยอมรับเรื่องที่จะตีพิมพ์เป็นสิทธิ์ของกองบรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบในเนื้อหาหรือความถูกต้องของเรื่องที่ส่งมาตีพิมพ์ทุกเรื่อง ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการที่ปรากฏเผยแพร่ในวารสารฯ เป็นความคิดเห็นอิสระของผู้แต่ง โดยผู้แต่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากบทความเผยแพร่นั้น ซึ่งกองบรรณาธิการและคณะผู้จัดทำวารสารฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป